ผลิตภัณฑ์ เบต้าไบโอเทค Beta Biotech

ผลิตภัณฑ์ เบต้าไบโอเทค
สั่งซื้อ 086-9772693
Id.Line:zinsiri9

วิธีรับประทาน : หลังอาหาร ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง
1 กล่อง บรรจุ 30 แคปซูล ( 600mg ) อย 12-2-00129-1-0100

เบต้า-ไบโอเทค 1กป.ราคาปกติ 900 บาท / พิเศษ 2กป.ในราคา 1,500 บาท 
(ส่งฟรี EMS ในประเทศ)

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เบต้าไบโอเทค Beta Biotech คือผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเอมไซร์ที่สกัดจากพืชผักผลไม้กว่า 40 ชนิด โดยยึดหลักการของทฤษฎีเซลล์ซ่อมเซลล์เป็นแนวทางหรือเป้าหมายในการผลิต  เนื่องจากร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยเซลล์ 60 ล้านๆเซลล์ และเมื่อเซลล์ต่างๆ เสื่อมสภาพ หรือตายลง ร่างกายก็จะอ่อนแอ ป่วย หรือเป็นโรคภัยต่างๆตามมาเช่น ความดัน เบาหวาน ความจำเสื่อม สมองเสื่อม ฯลฯ

เบต้าไบโอเทคเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ไบโอเทคโนโลยี เป็นกรรมวิธีในการผลิต จึงสามารถรักษาคุณประโยชน์ของโอสถสาร หรือคุณประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในพืชผักผลไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 100 % ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่า ทันทีที่คุณรับประทานผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค  โอสถสารหรือสารที่มีประโยชน์จากพืชผักผลไม้กว่า 40 ชนิด จะถูกดูดซึมไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆในร่างกายทันที ซ่อมแซม บำรุงเซลล์ ฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่อ่อนแอ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ในแต่หน้าที่ของร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตามสมดุลธรรมชาติการทำงานของร่างกายอย่างแท้จริง
คุณประโยชน์หลักๆที่มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
  • ซ่อมเซลล์ตับอ่อน ฟื้นฟูตับอ่อน (เบาหวาน)
  • ซ่อมเซลล์ตับใหญ่ ฟื้นฟูตับใหญ่ (ไขมันพอกตับ)
  • ซ่อมเซลล์ท่อเส้นเลือด ล้างไขมันในเส้นเลือด (คอลเรสเตอรอล อัมพฤษ์)
  • ซ่อมเซลล์เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจให้สะอาด (หัวใจ)
  • ซ่อมเซลล์เส้นเลืดเลี้ยงสมอง (เส้นเลือดในสมองตีบ)
  • ซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ จากแผลกดทับ (แผลเบาหวาน)
  • เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เสริมสร้าง และกระตุ้นไขกระดุก เพิ่มการผลิตเม็ดเลือดขาว
  • เพิ่มประสิทธิภาพภูมิต้านทานโรคต่างๆ
  • บำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส อ่อนกว่าวัย บำรุงรกัษาการอักเสบ เจ็บปวด ทุกส่วน
  • บำรุงตับอ่อน (ต้านเบาหวาน) ล้างพิษตับ
  • ป้องกันและต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง เนื้องอก เซลล์ผิดปกติต่างๆ
สารประกอบหลักใน เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
ผักขม
 
ผักโขมเป็นผักสุขภาพชั้นยอดในใบผักโขมเป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดแอมิโน และสารอาหารอื่นๆเช่น ธาตุเหล็กแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ในผักโขมยังมีเบต้าแคโรทีนสูงมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดอีกด้วยผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมากจึงช่วยระบบขับถ่ายและลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ นอกจากนี้จากการวิจัยยังพบว่า เมล็ดผักโขมที่ชาวตะวันตกชอบรับประทานนั้นมีคุณค่าโปรตีนและแคลเซี่ยมที่สูงกว่าน้ำนม  อีกทั้งให้กรดแอมิโนชื่อไลซีนมากกว่าที่ได้จากข้าว หรือข้าวสาลีอีก     
แครอท
 
1. ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ถ้าอยากให้ดวงตาคู่สวยยังคงมีสุขภาพดีอยู่กับเราไปนาน ๆ แครอทถือเป็นตัวเลือกที่ดีของอาหารบำรุงสุขภาพดวงค่ะ เพราะแครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ใครที่จ้องหน้าจอทั้งวันละก็ รีบหามากินด่วนเลย
2. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์ เมื่อคุณผู้หญิงอายุมากขึ้น ปัญหาเรื่องผิวพรรณก็ตามมาติด ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย และยังดูเด็กจนคนทายอายุไม่ถูกละก็ ขอแนะนำให้รับประทานแครอทเลย เพราะแครอทอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแบบเน้น ๆ ยิ่งกินยิ่งดูเด็ก ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ
3. ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ การเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายล้วนเกิดจากอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระในแครอทก็เปรียบเสมือนกับอัศวินที่คอยปกป้องไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย สาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากร่างกายทรุดโทรมหรือแก่ก่อนวัย รับประทานแครอทหรือน้ำแครอทเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นแน่นอน !
4. บำรุงสุขภาพสตรีมีครรภ์ แครอทเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะสามารถช่วยบำรุงสุขภาพทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ ช่วยเสริมสร้างให้ทารกเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง และลดความเสี่ยงของความผิดปกติที่จะเกิดทารก ในขณะที่ตัวคุณแม่เองนั้นก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคโลหิตจาง และกระตุ้นให้มีน้ำนมเพียงพอ ที่สำคัญยังเป็นอาหารควบคุมน้ำหนักให้คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ด้วยล่ะ
5. ป้องกันผิวจากรังสียูวี รังสียูวีถือว่าเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิว อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งสารอาหารจากธรรมชาติอย่างวิตามินเอที่มีในแครอทก็สามารถป้องกันผิวพรรณของคุณสาว ๆ จากรังสียูวีได้ อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระก็ยังเปรียบเสมือนสารกันแดดจากธรรมชาติป้องกันผิวจากแสงแดดไม่ให้หมองคล้ำได้อีกด้วย
6. ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม อนุมูลอิสระที่มาจากอาหาร และมลพิษที่อยู่รอบตัวเปรียบเหมือนเป็นพันธมิตรชั้นดีของโรคมะเร็ง เพราะเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะเข้ามาทำลายเซลล์และอาจแปรสภาพให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ แต่การรับประทานแครอทเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกาย
7. กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร สำหรับสาว ๆ ที่กำลังคิดจะลดน้ำหนัก ห้ามลืมเลือกแครอทเป็นผู้ช่วยในการสร้างหุ่นที่ผอมเพรียวแบบฟิต แอนด์ เฟิร์มนะคะ เพราะแครอทจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มาก
8. ลดอาการช่วงมีประจำเดือน แครอทเป็นอีกหนึ่งในอาหารที่่ช่วยลดอาการต่าง ๆ ในช่วงเป็นประจำเดือนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึ่งผู้หญิงจะสูญเสียธาตุเหล็กไปมากกว่าปกติ และถ้าหากร่างกายขาดธาตุเหล็กอาจทำให้อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ ผมร่วง และเป็นโรคโลหิตจางได้ นอกจากนี้วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและควบคุมให้ประจำเดือนมาตามปกติ หมดปัญหาหนักใจเรื่องรอบเดือนผิดปกติไปได้เลย
9. ป้องกันการเกิดสิว สารอาหารในแครอทไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงให้ผิวสวยใส แต่ยังช่วยปรับค่าพีเอช (pH) ในผิวให้เกิดความสมดุลอีกด้วย ลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ถ้าดื่มน้ำแครอทผสมน้ำผึ้งละก็ จะยิ่งช่วยรักษาสิวและยับยั้งไม่ให้เกิดสิวได้
10. ดูแลสุขภาพผมให้แข็งแรง และเงางาม สำหรับเรื่องสรรพคุณในการบำรุงเส้นผม แค่รอทก็มีดีไม่ใช่เล่น เพราะวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในแครอทมีฤทธิ์ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงและเงางาม อีกทั้งวิตามินซีที่มีในแครอทเช่นกันก็ยังช่วยทำให้ผมที่ขาดความชุ่มชื้นกลับมานุ่มสลวยสมใจ
คลอลาเจน
มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง  จึงป้องกันและเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายเพื่อเป็นการเกิดริ้วรอยลึกโดยจัดการกับสารอนุมูลอิสระที่ถูกเร่งมาจากปัจจัยต่างๆ มากมายโดยเฉพาะรังสียูวี ยิ่งป็นตัวการสำคัญ ที่ก่อให้เกิดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอีกด้วย ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น กระชับใสและมีความเรียบเนียน ต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นการดูแลผิวเพื่อการชะลอริ้วรอยโดยรับประทาน คอลลาเจน ยังเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการเติมคอลลาเจนให้กับชั้นผิว คอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของคอลลาเจนที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันฝ้า จุดด่างดำ และ กระ  นอกจากนี้ยังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตโดยเฉพาะหลอดเลือดเล็ก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น คอลลาเจนสามารถลดการเกิดรอยดำ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ลดการระคายเคือง ที่ผิวหนัง ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี กระจ่างใสยิ่งขึ้น
ชาเขียว


  • ช่วยในการขับสารพิษ และสารอนุมูลอิสระ จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง และโรคความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
  • EGCG จากชาเขียวสกัด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ มีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคท่อเลือดแดง และหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดอุดตัน (Coronary Artery Disease) จากการวิจัยพบว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดคอเรสเตอรอลรวม และเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลชนิดดี(HDL)
  • สารโพลีฟีนอล สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ สามารถช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ทั้งนี้ ชาเขียวมี ผลลัพธ์ ทางการแพทย์ในเชิงบวกต่อการรักษามะเร็งประเภทต่อไปนี้ เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งทรวงอก มะเร็งรังไข่ มะเร็งปลายลำไส้ใหญ่หรือไส้ตรง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำอสุจิ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร
  • ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานประเภท-I และชะลอการเกิดโรคเบาหวาน เมื่อโรคเบาหวานได้เริ่มต้นเกิดขึ้นแล้ว โดยจะทำการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล
  • ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงสามารถช่วยล้างพิษและกำจัดพิษในลำไส้ของเราได้
  • ช่วยในการการป้องกันตับจากความเสียหายจากสารพิษต่างๆ เช่น แอลกอฮอลล์
  • สารสกัดชาเขียว ช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายให้เป็นพลังงาน
  • ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์

เห็ดหลินจือ  


เห็ดหลินจือ ยอดแห่งสมุนไพรจากแผ่นดินจีน ความหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ต้านมะเร็ง เสริมภูมิต้านทาน เสริมการรักษา-ลดความทรมานจากเคมีบำบัด ขับพิษ บำรุงร่างกาย ปราศจากผลข้างเคียง
  • โรคความดันโลหิตสูง และต่ำ
  • โรคหัวใจอันมีสาเหตุจากโรคความดันโลหิตสูง และลิ่มเลือด
  • เป็นลมบ่อย น้ำตาลในเส้นเลือดสูง เส้นเลือดอุดตัน
  • โรคหญิงวัยหมดประจำเดือน และโรคเฉพาะสตรี
  • ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
  • โรคตับอักเสบเรื้อรัง
  • ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย
  • โรคกระเพาะ โรคลำไส้เป็นแผล
  • โรคภูมิแพ้ (เช่น แพ้อากาศ หวัดเรื้อรัง)
  • โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคหอบหืด
  • ปวดเอว ปวดข้อ ไขข้ออักเสบ (โรคประจำตัวในวัยกลางคนขึ้นไป)
  • โรคนอนไม่หลับ เซื่องซึม อ่อนเพลีย
  • โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็นต้น
  • ต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง
  • ระงับการกระจายของเซลล์มะเร็ง
  • ระงับอาการปวด
ปลือกสน

  • Pycnogenol ที่ได้จากสารสกัดจากเปลือกสน จะช่วยประสานและปกป้องคอลลาเจน (คอลลาเจน เป็นโปรตีนในผิวหนังที่ช่วยให้ ผิวตึงกระชับไม่เหี่ยวย่น)
  • โดย Pycnogenol จะจัดการกับเอนไซม์ และสารอนุมูลอิสระ ไม่ให้มาทำลาย เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอย
  • ป้องกันปัญหาฝ้า เเละผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย Pycnogenol ก็ยังช่วยได้ โดยจะเข้าไป ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เเละไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิว ที่ผิดปรกติ
  • ทำให้ผิวเนียนเรียบ เเข็งเเรง เเละยืดหยุ่นได้ดีขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การได้รับ Pycnogenol เป็นประจำ
  • ส่งผลให้ลดภาวะความเสี่ยง ต่อการเป็น มะเร็งที่ผิวหนัง เนื่องจากเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งไปกว่านั้น สารสกัดจากเปลือกสน ยังช่วยยับยั้ง การก่อมะเร็งผิวหนัง ที่เกิดจากการสัมผัส หรือกระตุ้นด้วยสารเคมี อีกด้วยและสารสกัดจากพืชผักผลไม้อื่น อีกหลายชนิด
วิธีรับประทาน หลังอาหาร ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง บรรจุ 60 แคปซูล ( 600mg ) 
อย 12-2-00129-10100 สั่งซื้อผลิตภัณฑ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น